
ภาพรวมราคาพัฒนาเว็บไซต์และระบบด้วย PHP และ WordPress ปี 2025
เพื่อให้เห็นภาพชัดเจน เรทราคาการพัฒนาเว็บไซต์และระบบในปัจจุบันมีความหลากหลายสูง ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลักคือ "เทคโนโลยีที่เลือกใช้" และ "ความซับซ้อนของฟังก์ชัน" โดยสามารถแบ่งแยกราคาตามประเภทของงานได้ดังนี้ครับ
หลักการเปรียบเทียบเบื้องต้น: WordPress vs Laravel/PHP
- WordPress (เน้นเว็บสำเร็จรูป/ปรับแต่ง): เหมาะกับงานที่ไม่ซับซ้อนมาก ต้นทุนเริ่มต้นต่ำกว่า พัฒนาได้รวดเร็วเพราะมี Theme และ Plugin สำเร็จรูปให้เลือกใช้ ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่จะอยู่ที่ค่า Theme/Plugin, ค่าปรับแต่งดีไซน์ และการตั้งค่าระบบ
- Laravel/PHP (เน้นการพัฒนาระบบโดยเฉพาะ): เหมาะกับงานที่ต้องการฟังก์ชันเฉพาะทาง มีความซับซ้อนสูง หรือต้องการประสิทธิภาพและความปลอดภัยเป็นพิเศษ ต้นทุนเริ่มต้นจะสูงกว่า เพราะเป็นการเขียนโค้ดและออกแบบระบบใหม่เกือบทั้งหมด แต่จะมีความยืดหยุ่นและสามารถต่อยอดได้มากกว่าในระยะยาว
เรทราคาประเมินตามประเภทเว็บไซต์
- เว็บไซต์หน้าเดียว (Salepage)
วัตถุประสงค์: เน้นการขายสินค้าหรือบริการชิ้นเดียว ปิดการขายในหน้าเดียว มีฟอร์มสั่งซื้อ/ติดต่อ- WordPress/เว็บสำเร็จรูป:
ราคา: 3,000 - 15,000 บาท
สิ่งที่ได้: ใช้ Theme สำเร็จรูปหรือ Page Builder (เช่น Elementor) ในการออกแบบ, รองรับ Responsive, เชื่อมต่อกับ LINE Notify หรือ Facebook Pixel, มีระบบฟอร์มสั่งซื้อพื้นฐาน - Laravel/PHP (Custom):
ราคา: 15,000 - 30,000+ บาท
สิ่งที่ได้: ออกแบบดีไซน์เฉพาะตัว, อาจมีระบบหลังบ้านอย่างง่ายสำหรับดูรายการสั่งซื้อ หรือเชื่อมต่อกับ API อื่นๆ ที่ซับซ้อนขึ้น
- WordPress/เว็บสำเร็จรูป:
- เว็บแสดงผลงาน (Portfolio Website)
วัตถุประสงค์: แสดงข้อมูลส่วนตัว, ผลงานที่ผ่านมา, ช่องทางการติดต่อ สำหรับบุคคลหรือฟรีแลนซ์- WordPress:
ราคา: 8,000 - 25,000 บาท
สิ่งที่ได้: เว็บไซต์ประมาณ 3-5 หน้า (หน้าแรก, เกี่ยวกับเรา, ผลงาน, ติดต่อ), ใช้ Theme สำเร็จรูปสำหรับ Portfolio, มี Gallery แสดงผลงาน - Laravel/PHP (Custom):
ราคา: 20,000 - 40,000+ บาท
สิ่งที่ได้: ออกแบบดีไซน์เฉพาะที่ไม่เหมือนใคร, อาจมีระบบหลังบ้านให้เจ้าของเว็บสามารถเพิ่ม/ลบ/แก้ไขผลงานได้เอง
- WordPress:
- เว็บองค์กร/เว็บ บริษัท (Corporate Website)
วัตถุประสงค์: สร้างความน่าเชื่อถือ, ให้ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท, สินค้า/บริการ, ข่าวสาร, และเป็นช่องทางการติดต่อทางธุรกิจ- WordPress:
ราคา: 15,000 - 50,000+ บาท
สิ่งที่ได้: เว็บไซต์ 5-15 หน้า, ดีไซน์สวยงาม น่าเชื่อถือ (อาจใช้ Premium Theme), ระบบจัดการบทความ/ข่าวสาร (Blog), ระบบจัดการ 2 ภาษา, การปรับแต่ง SEO เบื้องต้น - Laravel/PHP (Custom):
ราคา: 50,000 - 150,000+ บาท
สิ่งที่ได้: ออกแบบตาม Brand Identity ขององค์กร, มีฟังก์ชันเฉพาะทาง เช่น ระบบคำนวณราคา, ระบบค้นหาขั้นสูง, ระบบสมาชิกสำหรับลูกค้า, การเชื่อมต่อกับระบบภายในอื่นๆ ของบริษัท
- WordPress:
- เว็บ E-Commerce
วัตถุประสงค์: ระบบซื้อ-ขายสินค้าออนไลน์เต็มรูปแบบ- WordPress (ใช้ปลั๊กอิน WooCommerce):
ราคา: 30,000 - 80,000+ บาท
สิ่งที่ได้: ระบบตะกร้าสินค้า, จัดการสต็อก, ระบบคูปองส่วนลด, รองรับการชำระเงินผ่าน Payment Gateway, ระบบสมาชิก, คำนวณค่าขนส่งพื้นฐาน
***หมายเหตุ:*** ราคาจะสูงขึ้นตามความซับซ้อนของเงื่อนไขโปรโมชัน, รูปแบบค่าส่ง, หรือการเชื่อมต่อกับระบบบัญชี - Laravel/PHP (Custom E-Commerce):
ราคา: 100,000 - 500,000+ บาท
สิ่งที่ได้: ฟังก์ชันทุกอย่างที่ WordPress ทำได้ แต่สามารถปรับแก้ Logic เฉพาะทางได้ทั้งหมด เช่น ระบบ Marketplace (หลายร้านค้า), ระบบ Affiliate, ระบบ Subscription, การคำนวณค่าส่งที่ซับซ้อน, การออกรายงานวิเคราะห์การขายขั้นสูง, เชื่อมต่อกับระบบ ERP
- WordPress (ใช้ปลั๊กอิน WooCommerce):
- ระบบขนาดใหญ่ (Large-Scale Custom System)
วัตถุประสงค์:** ระบบจัดการภายในองค์กร (ERP, CRM), แพลตฟอร์มบริการออนไลน์ (SaaS), ระบบที่มี Logic การทำงานซับซ้อนและต้องการความปลอดภัยสูง
เทคโนโลยี: Laravel/PHP (ไม่นิยมใช้ WordPress สำหรับงานประเภทนี้)
ราคา: 250,000 - 1,000,000++ บาท
ราคา 250,000 - 500,000 บาท: ระบบจัดการภายในขนาดเล็ก-กลาง เช่น ระบบจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM), ระบบจัดการสินค้าคงคลัง (Inventory), ระบบจัดการการจอง
ราคา 500,000 - 1,000,000+ บาท: ระบบ ERP ที่ครอบคลุมหลายแผนก, แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานจำนวนมาก, ระบบที่ต้องการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่, หรือระบบที่ต้องการความปลอดภัยระดับสูง เช่น FinTech - ปัจจัยอื่นๆ ที่มีผลต่อราคา
- ขอบเขตงาน (Scope of Work): ความต้องการฟังก์ชันยิ่งเยอะ ราคายิ่งสูง
- การออกแบบ UI/UX: จ้างนักออกแบบโดยเฉพาะ หรือใช้ Template สำเร็จรูป
- ผู้ให้บริการ: ราคาจ้างฟรีแลนซ์, บริษัทขนาดเล็ก (Studio), และเอเจนซี่ขนาดใหญ่ จะแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ
- การดูแลหลังการขาย (Maintenance): ค่าบริการรายเดือน/รายปี สำหรับการอัปเดต, สำรองข้อมูล, และดูแลความปลอดภัย
**สรุป** การเลือกใช้เทคโนโลยีควรพิจารณาจากเป้าหมายและงบประมาณ หากต้องการเว็บไซต์มาตรฐานที่รวดเร็วและประหยัด WordPress คือคำตอบ แต่ถ้าต้องการสร้างระบบที่มีเอกลักษณ์, ฟังก์ชันเฉพาะทาง, และรองรับการเติบโตในอนาคต การลงทุนกับ Laravel/PHP จะมีความคุ้มค่ามากกว่าในระยะยาว