
Gemini vs. ChatGPT: ความแตกต่างที่ควรรู้ในปี 2025
Gemini vs. ChatGPT: ความแตกต่างที่ควรรู้ในปี 2025
ในยุคที่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเราอย่างรวดเร็ว ChatGPT จาก OpenAI และ Gemini จาก Google ถือเป็นสองโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในปัจจุบัน แม้ทั้งสองจะมีความสามารถในการสนทนาและสร้างเนื้อหาที่คล้ายคลึงกัน แต่ก็มีจุดเด่นและความแตกต่างที่สำคัญที่ผู้ใช้งานควรทราบ
1. โมเดลและเวอร์ชันล่าสุด
ChatGPT
พัฒนาโดย OpenAI โดยเวอร์ชันล่าสุดคือ GPT-4o ซึ่งเปิดตัวในเดือนพฤษภาคม 2025 มีความสามารถในการประมวลผลข้อมูลแบบมัลติโหมด รองรับข้อความ เสียง และภาพ พร้อมทั้งมีการปรับปรุงความสามารถในการสนทนาและการเข้าใจบริบทที่ซับซ้อนมากยิ่งขึ้น
Gemini
พัฒนาโดย Google DeepMind โดยเวอร์ชันล่าสุดคือ Gemini 2.5 Pro ซึ่งเปิดตัวในเดือนมีนาคม 2025 มีความสามารถในการประมวลผลข้อมูลแบบมัลติโหมดเช่นกัน รองรับข้อความ เสียง ภาพ และวิดีโอ พร้อมทั้งมีการปรับปรุงความสามารถในการให้เหตุผล การเขียนโค้ด และการวิเคราะห์ข้อมูลที่ซับซ้อน(Informa TechTarget)
2. แหล่งข้อมูลและการอัปเดต
ChatGPT
ข้อมูลที่ใช้ในการฝึกโมเดลมีถึงเดือนตุลาคม 2023 ซึ่งหมายความว่าอาจไม่มีข้อมูลล่าสุดหลังจากนั้น แม้จะมีความสามารถในการสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพ แต่การอัปเดตข้อมูลแบบเรียลไทม์ยังไม่สามารถทำได้
Gemini
มีความสามารถในการดึงข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตแบบเรียลไทม์ ทำให้สามารถให้ข้อมูลล่าสุดได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้งานควรตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลที่ได้รับ เนื่องจากอาจมีความคลาดเคลื่อนหรือข้อมูลที่ไม่ถูกต้องได้
3. ประสบการณ์ผู้ใช้งาน
ChatGPT
มีอินเทอร์เฟซที่เรียบง่ายและใช้งานง่าย รองรับการสนทนาแบบข้อความและเสียง มีฟีเจอร์ "Custom GPTs" ที่ให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างเวอร์ชันของ ChatGPT ที่ปรับแต่งได้ตามความต้องการ(Lifewire)
Gemini
มีอินเทอร์เฟซที่คล้ายกับผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของ Google ทำให้ผู้ใช้งานที่คุ้นเคยกับบริการของ Google สามารถใช้งานได้อย่างสะดวก มีการเชื่อมต่อกับบริการต่างๆ ของ Google เช่น Gmail, Docs, และ YouTube ทำให้สามารถใช้งานร่วมกับบริการเหล่านี้ได้อย่างราบรื่น
4. ความสามารถเฉพาะด้าน
ChatGPT
เด่นในด้านการสร้างเนื้อหาที่มีความคิดสร้างสรรค์ เช่น การเขียนเรื่องราว บทความ หรือบทสนทนา มีความสามารถในการเข้าใจและตอบสนองต่ออารมณ์ของผู้ใช้งานได้ดี
Gemini
เด่นในด้านการวิเคราะห์ข้อมูลที่ซับซ้อน การให้เหตุผล และการประมวลผลข้อมูลแบบมัลติโหมด เช่น การวิเคราะห์ภาพ วิดีโอ และเสียง พร้อมทั้งมีความสามารถในการเขียนและวิเคราะห์โค้ดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
5. การใช้งานและการสมัครสมาชิก
ChatGPT
มีเวอร์ชันฟรีที่สามารถใช้งานได้ผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน โดยสามารถสมัครสมาชิก ChatGPT Plus ในราคา $20 ต่อเดือน เพื่อเข้าถึงฟีเจอร์และความสามารถเพิ่มเติมของ GPT-4o
Gemini
มีเวอร์ชันฟรีที่สามารถใช้งานได้ผ่านบัญชี Google และมีเวอร์ชัน Gemini Advanced ที่สามารถเข้าถึงได้ผ่านการสมัครสมาชิก Google One AI Premium ในราคา $19.99 ต่อเดือน ซึ่งจะได้รับพื้นที่เก็บข้อมูล 2TB และสามารถใช้งาน Gemini ร่วมกับบริการต่างๆ ของ Google ได้(barrons.com)
6. ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว
ChatGPT
OpenAI มีมาตรการในการรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน โดยมีการเก็บข้อมูลการใช้งานเพื่อปรับปรุงโมเดล แต่ไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งาน
Gemini
Google มีมาตรการในการรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานเช่นกัน โดยมีการแจ้งเตือนผู้ใช้งานให้ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลที่ได้รับ และหลีกเลี่ยงการส่งข้อมูลที่เป็นความลับหรือข้อมูลส่วนบุคคลผ่านระบบ
สรุป
ทั้ง ChatGPT และ Gemini มีความสามารถที่โดดเด่นและเหมาะสมกับการใช้งานที่แตกต่างกัน หากคุณต้องการเครื่องมือที่ช่วยในการสร้างเนื้อหาที่มีความคิดสร้างสรรค์และมีการสนทนาที่เป็นธรรมชาติ ChatGPT อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม แต่หากคุณต้องการเครื่องมือที่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลที่ซับซ้อนและเชื่อมต่อกับบริการต่างๆ ของ Google ได้อย่างราบรื่น Gemini อาจเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์มากกว่า
อ้างอิง: TechTarget - Gemini vs. ChatGPT: What's the difference?
แปลโดย SalepageThai